มาเล่นเน็ตแบบไม่เก็บประวัติการเล่นกันครับ

          ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักคำสั่งในการล้างประวัติการเล่นอินเตอร์เน็ตไปแล้ว  แต่มันก็ยังมีข้อเสียตรงที่ว่าประวัติที่เราไม่ต้องการลบก็จะหายไปด้วย  เว็บไซต์ที่มันขึ้นอัตโนมัติก็หายไปกันหมดเลย  เรียกได้ว่าล้างถึงตราไหนก็หายถึงตอนนั้น  ยิ่งถ้าล้างทั้งหมดนี้ก็เรียกได้ว่าเริ่มกันใหม่เลย  หรือถึงแม้ว่าจะสามารถลบประวัติโดยระบุเว็บไซต์ได้ในบางโปรแกรม  บางที่มันก็ยังมีหลุดๆทำให้มีประวัติที่เราไม่ต้องการเก็บหลงเหลืออยู่

          ก็เป็นที่มาของบทความเราครับ  มาเล่นเน็ตแบบไม่เก็บประวัติการเล่นกันครับ   ทำอย่างไรนั้นไม่ยากเลยครับตามมาเลย

          มาที่โปรแกรมแรกครับคือโปรแกรม IE  ให้เราเปิดโปรแกรมขึ้นมาก่อนครับ  จากนั้นกดปุ่ม Ctrl + Shift + P  จะมีหน้าต่างใหม่ปรากฎขึ้นมาใหม่ให้เราครับแต่หน้าต่างนี้ถ้าสังเกตุดีๆที่ด้านหน้าช่องกรอกเว็บไซต์จะมีคำว่า InPrivate ดังรูปด้านล่างครับ  นั้นก็แสดงว่าเราเข้าสู่โหมดของการไม่เก็นประวัติการเล่นแล้วครับ

######################################################

          โปรแกรมที่ 2  คือโปรแกรม Firefox  เปิดโปรแกรมขึ้นมาครับแล้วกดปุ่ม  Ctrl + Shift + P  ก็จะมีหน้าต่างใหม่ปรากฎขึ้นมาครับซึ่งที่มุมบนด้านซ้ายก็จะมีสัญลักษณ์ที่บอกว่าเข้าสู่โหมดไม่เก็บประวัติการใช้งานดังรูปครับ

######################################################

          โปรแกรมสุดท้ายคือโปรแกรม  Google  Chrome   พอเราเป็นโปรแกรมแล้วให้กดปุ่ม  Ctrl + Shift + N  ก็จะมีหน้าต่างใหม่พร้อมสัญญาณที่มุมบนซ้านดังรูปด้านล่างเลยครับ

          โปรแกรมแต่ละเวอร์ชั่นก็อาจจะมีสัญลักษณ์หรือสีที่ไม่เหมือนกันนะครับ แต่ให้สังเกตุที่บริเวณมุมบนด้านซ้ายเองครับว่ามีสัญลักษณ์อะไรที่ไม่เหมือนกับหน้าต่างปกติ  นั้นก็แสดงว่าเราเข้าโหมดไม่เก็บประวัติการเล่นแล้วครับ

          ถึงตรงนี้เราคงสามารถเล่นเน็ตได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องตามไปลบประวัติการเล่นของเราแล้วครับ  แต่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นบ้าง  เช่น ถ้าเราโหลดรูปหรือไฟล์มาเก็บไว้ไฟล์นั้นก็จะยังคงอยู่  หรือ  เราต้องการใช้  โปรแกรมเสริมบางตัวซึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ในโหมดเล่นแบบไม่เก็บประวัตินี้  ก็ลองๆเล่นดูนะครับ  ถ้าเล่นบางตัวไม่ได้  ก็ให้ลองให้โปรแกรมตัวอื่นๆดูครับหรือไม่ก็คงต้องเล่นแบบโหมดปรกติธรรมดาเอา  แล้วเราก็ตามไปลบประวัติเองครับ

ค้นด้วยรูป เล่นๆกันดีกว่า

          คงไม่มีใครสังสัยในประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลของ Google อย่างแน่นอน  เพราะทุกวันถ้าเราเปิดใช้งานอินเตอร์เน็ต  เว็บนี้ต้องได้มีการใช้งานเป็นส่วนใหญ่แน่ๆ  แต่วันนี้ผมจะมานำเสนออีกความสามารถหนึ่งของ  google ที่บางท่านยังไม่ได้เคยลองเล่นกัน  เราไปเล่นกันดีกว่าครับ

          ที่ว่าจะไปเล่นคือการค้นหารูปครับ  แต่ไม่ใช่ใส่คำลงไปนะครับแต่เป็นการใช้รูปไปค้นหารูป   โดยเรามีรูปที่เราต้องการหาลงไป  แล้วพี่ google  ของเราจะหารูปที่มีสีสัน  หรือเว็บที่เกี่ยวข้องกันมาให้เรา  ซึ่งก็คงไม่ถึงขนาดหาได้ถูกต้องนะครับ เพราะเท่าที่ลองบางภาพมันก็หาไม่เจอะเลย เป็นคนละภาพกันเลยครับ  แต่ถ้าเป็นภาพที่เป็นสาธารณะเป็นภาพการ์ตูนดังๆ หนึ่งดัง ก็อาจจะเจอะได้เยอะเหมือนกัน  ไปลองกันครับ

          เราก็เปิดเว็บ  google  จากนั้นไปเลือกที่เมนู  ค้นหารูป  ที่อยู่ด้านบนซ้ายเลยครับ

   

          เมื่อคลิ้กแล้วช่องใส่คำค้นจะมีเครื่องมือเพิ่มเติมปรากฎขึ้นมาเป็นรูปกล้องถ่ายรูป

           ให้เราคลิ้กที่กล้องถ่ายรูปจะมีหน้าต่างให้เราเลือกรูปที่ต้องการค้นหา  ให้เราคลิ้กที่คำว่า  อัปโหลดภาพ

          ให้คลิ้กที่ปุ่ม เลือกไฟล์  

          ก็จะมีหน้าต่างให้เราไปค้นหาไฟล์รูปในเครื่องของเรา  และเมื่อเราเลือกรูปที่ต้องการนำไปเป็นต้นแบบในการค้นหาเสร็จแล้ว  ก็ให้เรากดปุ่ม Open แล้วก็รออัปรูปให้  google จนเสร็จ

          จากนั้น  google  ก็จะค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาพต้นแบบที่เราอัปขี้นไป

         ก็เป็นลูกเล่นอีกอันหนึ่งที่ไว้ใช้ลองเล่นๆกันนะครับ    ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้ที่มาของรูปที่เรามีอยู่ก็เป็นไปได้นะครับ  แต่ก็ของแนะนำว่าไฟล์ภาพที่เราต้องการจะนำไปเป็นต้นแบบในการค้นหาควรจะมีขนาดไฟล์ที่ไม่ใหญ่นะครับ  ไม่อย่างนั้นจะต้องใช้เวลาที่นานมากเหมือนกันครับ

มาเอาพื้นที่คืนกันดีกว่า

     

          เวลาเราใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆก็เก็บโน้นเก็บนี้ไปเรื่อย   นานไป นานไป    ก๊อปปี้ ...   วาง  ...  มันก็จะมีหน้าต่างบอกประมาณว่า    พื้นที่ดิสไม่พอที่จะไม่สามารถก๊อปปี้ได้   ที่นี้ละหากันไปเถอะว่าทำไมถึงเต็ม  จะลบไฟล์ไหนดี  โฟลเดอร์เยอะเต็มไปหมดเลยไม่รู้จะไปหาลบไฟล์ที่โฟลเดอร์ไหนก่อนดี  ปวดหัว

          เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะเคยประสบเหตุการณ์อย่างนี้มาแล้ว  เก็บงาน เก็บหนัง เก็บรูป  แรกๆก็จัดวางเป็นระเบียบยิ่งกว่า 5 ส  แต่นานๆไปทำงานรีบงานด่วนก็ก๊อปๆลงมาก่อนเดี๋ยวจัด  เดี๋ยวมาจัด เดี๋ยวมาจัด  อยู่หลายรอบจนไฟล์โฟลเดอร์ก็มีสภาพแบบในเครื่องเราๆท่านๆนี้ละครับ  แล้วเราจะเอางัยดีละเนี้ย  เมื่อไฟล์มันเยอะมาก  อยู่ในโฟลเดอร์ซ้อนโฟลเดอร์เต็มไปหมด  เริ่มไม่ถูก  แล้วแล้วอยากจะเริ่มถูกไฟล์ถูกโฟลเดอร์หรือเปล่าละครับ  ถ้าอยากก็มาเลยครับจัดให้

          เรามีโปรแกรมที่ช่วยตรวจว่าโฟลเดอร์ไหนมีขนาดไฟล์รวมๆกันเท่าไหร่  จะได้เริ่มต้นจัดการถูก  ไปเลยครับ http://www.folder-size.com/  ไปโหลดโปรแกรม Folder Sizes & Directory Sizes ซึ่งเป็นของฟรีแล้วก็ยังดีอีกด้วยครับ  เมื่อโหลดมาแล้วก็ติดตั้งเลยครับ

          1. เมื่อเราเปิดไฟล์ติดตั้งแล้วจะเป็นหน้าต่างติดตั้งขึ้นมาอ่านแล้วคลิ้ก Next เลยครับ

          2. อ่านเสร็จแล้วเลือก I accept the agreement  แล้วกดปุ่ม Next >

          3. เลือกโฟลเดอร์ที่จะเก็บครับ  ปกติก็คลิ้ก Next > ผ่านไปเลยครับ

          4. คลิ้กที่  Next  >  ไปอีกเหมือนกันครับ

          5. คลิ้ก  Next >  อีกแล้ว

          6.  กด Install

          7. ติดตั้งเสร็จแล้วจะมีหน้าต่างให้เลือกครับ คลิ้ก Finish

          โปรแกรมเรามาแล้วครับ  ให้สังเกตุที่บริเวณด้านบนซ้าย  จะมีช่องให้เลือก drive ที่ต้องการจะหา  ในกรณีผู้ใช้ทั่วๆไป  ผมแนะนำว่าควรจะเลือก drive อะไรก็ได้ครับที่ไม่ใช่ drive ของระบบ  ซึ่งปกติจะเป็น drive c:  เพราะเราอาจจะไปลบไฟล์สำคัญของระบบ  ถ้าไปลบแล้วอาจะร้องไห้ได้นะครับ  แต่ก็ลองได้ครับ  แล้วไปยุ่งกัน  My document อะไรพวกนี้ก็พอครับพอได้ครับ   

          ในช่องจะมีให้เลือก drive ตามที่มีอยู่ในเครื่องแต่ละคนครับ  เราลองเลือกมา  1  drive ครับ

          เมื่อเลือก  drive  แล้วก็ให้คลิ้กที่ปุ่มสามเหลี่ยมสีเขียวๆ ที่ท้ายช่องเลือก drive เลยครับ  แล้วก็รอครับ  นานมากน้อยตามขนาดตามจำนวนไฟล์ของแต่ละเครื่องครับ  เราก็จะได้รายงานออกมาให้เห็นตามรูปด้านล่างครับ  เสร็จแล้วก็ไปพิจารณาดูเอาเองนะครับว่าจะไปดูที่โฟลเดอร์ไหนก่อนดี

          ขอให้มีความสุขในการกำจัดไฟล์นะครับ  ไม่ใช่เอาโปรแกรมไปดูไฟล์ของเครื่องเพื่อนๆนะครับคุณนักสืบทั้งหลาย

เรื่องของ font อีกแล้ว

          แบบอักษรในปัจจุบันมีให้เลือกเยอะมากมายเต็มไปหมด  แต่ในหน่วยงานราชการยิ่งต้องรู้จักแบบอักษรตัวหนึ่งคือ  TH SarabunPSK  ซึ่งเป็นตัวที่หน่วยงานราชการจะต้องใช้ในการทำหนังสือราชการต่างๆ  โดยแบบอักษรนี้อยู่ในชุดของตัวอักษร  13  ตัวที่ทาง  สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)  เป็นผู้จัดทำ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.sipa.or.th 

         
          แต่ถ้าเราจะหาตัวอักษรไทยสวยๆดีๆก็ต้องไม่พ้นเว็บ  http://www.f0nt.com/  ซึ่งก็มีตัวอักษรที่มีผู้เสียสละทำขึ้นให้เราได้ใช้กันมากมาย ลองเข้าไปดูตัวอักษรแบบต่างๆได้เลยครับ  รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน  มีให้เราเลือกโหลดกันได้เลย  แต่ๆ  มีปัญหาที่ผู้ใช้บางคนสอบถามมาว่า  พี่ๆ โหลดแล้วคลาย zip แล้ว เป็นไฟล์หลายไฟล์เลยแต่ว่าไม่รู้จะติดตั้งงัยดีครับพี่   เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ  ถึงเราจะโหลดไฟล์คลาย zip แล้วแต่ก็ยังคงใช้แบบอักษรนั้นไม่ได้จนกว่าจะติดตั้ง  แล้วเราจะติดตั้งอย่างไรละเนี้ย

          เรื่องนี้ง่ายๆแค่การก๊อปปี้  เริ่มจากเราเลือกไฟล์ที่เป็นแบบอักษร  นามสกุลไฟล์คือ .ttf ทั้งหมดที่เขาให้มา  จากนั้นก็คลิ้กขวาเลือก Copy ครับ   แล้วก็นำไปวางที่โฟลเดอร์  C:\Windows\Fonts  แค่นี้เองครับ  เราก็ได้ตัวอักษรสวยๆใหม่ๆใช้กันแล้วครับ  แต่อย่าลืมนะครับว่าก๊อปปี้เสร็จแล้วถ้าเรายังเปิด Word  Excel  PowerPoint  หรือเปิดโปรแกรมอื่นๆอยู่  เราจะยังใช้ได้ไม่ได้นะครับ  ต้องปิดโปรแกรมแล้วเปิดใหม่อีกรอบครับถึงจะใช้งานได้

ล้างประวัติการเล่นเน็ต

          พี่  :  ดีครับน้อง ...   พี่ดูเว็บแล้วชื่อเว็บมันค้างอยู่ที่ช่องเว็บครับ  พี่อยากจะเอาออกครับ
          ผม  :  (ไม่รู้เลยว่าเล่นเว็บอะไรนะเนี้ย)  ครับพี่   พี่ใช้โปรแกรมอะไร  ................... ที่นี้ยาวไปครับ  เพราะการบอกใครให้ทำอะไรทางโทรศัพท์นี้  มันสุดๆจะยากเย็นมากๆ

          ประวัติการเข้าดูเว็บไซต์เป็นเรื่องที่สำคัญนะครับ  เพราะเราก็ต้องการดูแบบส่วนตัวไม่อยากให้ใครมารับรู้ว่าเราทำอะไรเล่นอะไรไว้บ้าง  ซึ่งจากที่พบมาก็เจอะหลายๆคนที่ไม่ทราบและพลาดกับตรงนี้มาเยอะละ  ไม่ว่าจะเพื่อน พ่อแม่พี่น้อง แฟน ฯลฯ จับได้ว่าดูอะไรบ้างก็จากตรงนี้ละครับ   ถ้าพูดให้เครียดหน่อยก็ข้อมูลการเล่นของเรา  user  password  ก็ยังสามารถที่จะหาได้ถ้าผู้ใช้ไม่มีความระมัดระวัง  แล้วจะทำงัยดีละ ???  ก็ล้างมันให้หมดสิครับ  แล้วล้างงัยละเนี้ย  ทำตามนี้ครับ

          ถ้าใช้  IE  (ผมใช้เวอร์ชัน 10)  ให้เปิดหน้าต่าง  IE  ไว้ จากนั้นกดปุ่ม  Ctrl + Shift + Delete  ก็จะมีหน้าต่าง Delete Browsing History ปรากฎขึ้นมา  ก็ให้เลือกเลยครับว่าจะลบอะไรบ้าง  ถ้าไม่รู้จะเลือกอะไร ก็คลิกเลือกให้หมดเลยครับ  ยิ่งถ้าเป็นเครื่องสาธารณะหรือมีคนใช้หลายๆคน  ยิ่งต้องเลือกช่อง Passwords นะครับเมื่อเลือกได้แล้วก็กดปุ่ม Delete แล้วก็รอจนโปรแกรมลบเสร็จครับ  ถ้าเป็นเวอร์ชั่นอื่นๆ  ก็ลองดูนะครับ  ตัวเลือกไม่ทิ้งกันมากครับ

########################################################

           Firefox (เวอร์ชั่น 23)  ก็ใช้ปุ่มเหมือนกัน IE เลยครับ  กดปุ่ม  Ctrl + Shift + Delete  จากนั้นจะมีหน้าต่าง  Clear Recent History  ปรากฎขึ้นครับ

          ซึ่งที่ช่อง Time range to clear จะมีตัวเลือกให้เลือกทั้งหมด  5   ตัวเลือกครับ  ก็เลือกเอาเลยครับว่าจะให้ล้างข้อมูลช่วงเวลาไหน  จากนั้นก็กดปุ่ม  Clear Now ได้เลยครับ  การลบจะช้าจะเร็วก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลว่ามีเยอะหรือน้อยนะครับ

 

########################################################

           มาถึง Chrome  กับบ้างครับ  ก็ให้กดปุ่ม  Ctrl + H  ก็จะมีหน้าต่างแสดงประวัติการเข้าเว็บไซต์ขึ้นมาครับ  ซึ่งให้เราไปคลิ้กที่ปุ่ม  ล้างข้อมูลการท่องเว็บ...

          ก็จะมีหน้าต่างใหม่ปรากฎขึ้นมาครับ  เป็นหน้าต่าง  ล้างข้อมูลการท่องเว็บ  ซึ่งในหน้านี้ก็คล้ายๆกับ  Firefox  ครับ  คือมีให้เลือกช่วงเวลาที่ต้องการ  กับตัวเลือกว่าจะลบข้อมูลอะไรบ้าง  เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็กดปุ่ม  ล้างข้อมูลการท่องเว็บ  แค่นี้ก็เสร็จอีกหนึ่งแล้วครับ

          ก็ลองไปปรับๆดูนะครับเพราะหน้าต่างหรือการจัดวางรวมถึงภาษาที่ใช้ของแต่ละเวอร์ชันอาจจะไม่เหมือนกันบ้างครับ  แต่หลักการก็คล้ายๆกันครับ

เปิดไฟล์ rar ไม่ได้

          โปรแกรม winrar เป็นโปรแกรมที่ช่วยบีบอัดข้อมูลให้มีขนาดเล็กลง  ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องคอมพิวเตอร์แทบจะทุกเครื่องมีโปรแกรม winrar มาให้อยู่แล้ว  บางคนไม่รู้จักชื่อโปรแกรมแต่ว่าสามารถบีบอัดไฟล์เป็นไฟล์เดียวกันได้ด้วย winrar   ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ  แต่เท่าที่สอบถามกันส่วนใหญ่คนที่ใช้ winrar จะไม่ได้สนเรื่องขนาดไฟล์มากนัก  แต่ที่บีบอัดไฟล์เพราะจริงๆแล้วต้องการให้ไฟล์ที่อยู่ในโพลเดอร์ มันร่วมเป็นไฟล์ๆเดียวแล้วค่อยส่งไฟล์ไปให้เพื่อนทางอีเมล์มากกว่า

          ซึ่งการที่เราจะคลายการบีบอัดข้อมูลให้เป็นข้อมูลที่เหมือนต้นฉบับเดิมนั้น  จะต้องใช้โปรแกรม winrar  ในการคลายการบีบอัด (จริงๆ ก็มีโปรแกรมอื่นคลายการบียอัดได้ แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ winrar)  ซึ่งในบางกรณี  บางเครื่องจะยังไม่มีโปรแกรม  winrar  เช่น เครื่องที่เพิ่งลง windows มาใหม่ๆ  จะยังไม่มีโปรแกรม winrar  ทำให้เราไม่สามารถเปิดไฟล์  .rar  ได้

          ก็เลยเป็นที่มาของบทความเราครับ  เราจะมาสร้างไฟล์ที่บีบอัดหรือรวมข้อมูลไว้ในไฟล์ๆเดียว  แล้วสามารถคลายการบีบอัดโดยที่ไม่ต้องมีโปรแกรม  winrar ก็ได้  โดยมีขั้นตอนเล็กๆน้อยๆดังนี้ครับ

          1. ให้คลิ้กขวาที่โฟลเดอร์หรือไฟล์ที่เราต้องการบีบอัดหรือรวมไฟล์  จะมีเมนูย่อยปรากฎขี้น  ให้เลือก  Add to archive...

          2.  จากนั้นจะมีหน้าต่าง Archive name and parameters ปรากฎขึ้น  ซึ่งในช่อง  Archive name จะมีชื่อไฟล์ที่ปรากฎขี้น เป็นชื่อไฟล์แล้วตามด้วย  .rar  ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนชื่อไฟล์ได้ที่นี้
          จากนั้นให้มองไปที่ช่องด้านซ้ายล่างในหัวข้อ  Archiving Options  จะเห็นรายการให้คลิ้กเลือก  Create SFX archive  เมื่อเลือกแล้วกดปุ่ม  OK  เลยครับ  เราก็จะได้ไฟล์ที่มีนามสกุล .exe แทน .rar  แต่เครื่องส่วนใหญ่อาจจะไม่เห็นนามสกลุของไฟล์นะครับ  จะเห็นเป็นแค่ชื่อไฟล์เท่านั้น  ซึ่งแค่นี้ละครับเราก็ได้ไฟล์ที่สามารถเปิดคลายออกมาโดยทีไม่ต้องมีโปรแกรม  winrar  แล้วครับ

เอา font ไปด้วย

        คงไม่มีใครไม่รู้จักชุดโปรแกรม Microsoft Office โดยเฉพาะ Word  Excel  PowerPoint  3 ทหารเสือที่ไว้ใช้ทำงานต่างๆมากมาย  ซึ่งในปัจจุบันก็ปาเข้าไปเป็นเวอร์ชันที่ 2013   ในตัวโปรแกรมก็มีเครื่องไม้เครื่องมือครบครัน  ซึ่งบอกได้เลยว่ามีเยอะมากจนบางเครื่องมือยังไม่เคยใช้กันเลยจริงๆ

          ที่นี้เวลาเราจัดทำเอกสารหรือการนำเสนองาน  ในบางครั้งเราก็ต้องออกแบบให้มีลูกเล่นสีสันต่างๆ  เพื่อให้งานของเรามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น  หนึ่งในลูกเล่นที่นิยมใช้กันมากเลยก็คือแบบอักษร  ซึ่งก็มีแบบอักษรสวยๆและฟรีมีให้เลือกก็มากมาย  เลือกกันจนเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ตัวไหนดี  ตัวนั้นก็สวย  ตัวนี้ก็เด่น  ก็เลือกกันไป

          เลือกแบบอักษรได้แล้ว  สีสันลงตัว  จัดสมดุลวัตถุ ok    สุดยอดเลยฝีมือเราบันทึกไฟล์ใส่ flash drive เรียบร้อย  พอไปเปิดที่หน้างานตัวอักษรมันเลื่อนไม่ตรงกันที่ตั้งไว้  ตัวอักษรใหญ่ๆ เต็มจอไปหมดเลย  แบบอักษรไม่ใช่อย่างที่ทำไว้เลย  เล่นเอาสะหงายเงิบกันไปเลย

          มันเป็นไปได้งัยเนี้ย ???    ง่ายมากครับปัญหานี้  ก็แบบอักษรสวยๆที่เราทำมันไม่มีอยู่ที่เครื่องหน้างานครับ  ทำให้โปรแกรมมันพยายหาแบบอักษรที่พอไปด้วยกันได้มาโชว์แทน  ซึ่งอย่าหาความสวยงามเลยครับหาไม่เจอะแน่ๆ  ดีไม่ดีตัวอักษรเป็นรูปสี่เหลี่ยมเต็มไปหมด  โอ้ยชีวิตชั่งเศร้าแท้

          เรามาแก้ปัญหานี้กันดีกว่าครับ  ซึ่ง Word  PowerPoint มันก็มีเครื่องมือในช่วยแก้ไขปัญหาของแบบอักษรมาให้แล้ว  เราไปดูที่ Word กันก่อนครับ

          1. ให้เราคลิ้กที่เมนู  ไฟล์  ที่ด้านบนซ้าย

          2. จากนั้นมองไปเมนูด้านซ้ายล่างที่่ชื่อว่า  ตัวเลือก  แล้วคลิ้ก

          3. จากนั้นจะมี  หน้าต่างตัวเลือก  ปรากฎขึ้นมาให้เรามองหาคำว่า  บันทึก ที่บริเวณเมนูซ้ายกลางๆ  ให้เราคลิ้กเลือก  จากนั้นมองไปที่ด้านล่างสุดจะมีหัวข้อ  ฝังฟอนต์ในไฟล์  ให้คลิ้กที่ช่องสีเหลี่ยมด้านหน้า จากนั้นให้เอาเครื่องหมายถูกที่หน้า   ฝังเฉพาะอักษรที่ใช้ในเอกสาร(เมื่อต้องการลดขนาดไฟล์) ออกไป  เพราะมันจะนำแบบอักษรที่ใช้พิมพ์ในเอกสารมาเท่านั้น  เช่น ในเอกสารไม่มีตัว  ณ  เลย   ถ้าเราฝั่งเฉพาะตัวอักษรที่ใช้ไป  เราไม่สามารพิมพ์ตัว  ณ  ได้  ซึ่งไม่ดีต่อการแก้ไขในอนาคตที่อาจจะมีโอกาสพิมพ์ตัว  ณ  แน่ๆ  เลยแนะนำให้เอาออกไป

กดปุ่ม  ตกลง  เท่านี้ตัวอักษรสวยๆ  ก็จะฝั่งอยู่ในไฟล์เรียบร้อย  ไปเปิดที่เครื่องไหนที่ไม่มีตัวอักษรนี้ก็สามารถทำงานได้

          ในโปรแกรม  PowerPoint  ก็มีขั้นตอนที่เหมือนกัน Word  ก็ลองๆนำไปใช้ดูนะครับ  ผมว่ามันเป็นประโยชน์มากจริงๆครับ

ลบข้อมูลให้ปลอดภัย

       

          เราคงเคยได้ยินได้ฟังหรือได้ดูคลิปหลุด ภาพหลุดต่่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือบุคคลทั่วไป  ข้อมูลคลิปพวกนี้มาจากไหนกัน  หลุดได้งัยละเนี้ย   จากข่าวที่เขาลงๆกันส่วนใหญ่ก็หลุดจากโทรศัพท์มือถือ  โน๊ตบุ๊ก   เอาไปซ่อม  เอาไปเปลี่ยนโน้นนี้นั้นสารพัดจะเปลี่ยน  พอเวลาผ่านไปทั้งภาพทั้งคลิปหลุดไปอยู่บนเว็บแล้ว  ซึ่งในบางกรณีตัวผู้โดนปล่อยคลิป ปล่อยภาพก็บอกว่าลบข้อมูลทิ้งไปหมดแล้วไม่นึกว่าจะสามารถนำกลับมาได้อีก

          ผมเองก็มีประสบการณ์ยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี  มีคนให้มาช่วยกู้ข้อมูลใน SD card  เพราะมีรูปสำคัญที่บังเอิญลบไป  ผมก็หาโปรแกรมมากู้ให้เรียบร้อยเสร็จสับ  เปิดไฟล์ขึ้นมาดู  ปรากฏว่ามีรูปที่เจ้าของ SD card ไปทำกิจกรรมแบบส่วนตัวจริงๆ   ณ ตอนนั้นผมไม่สามารถหันไปมองหาเจ้าของ SD card ได้  มันรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ทำให้คอไม่สามารถหันกลับไป ได้แต่ปิดหน้าต่างแล้วบันทึกทั้งโฟลเดอร์ให้เขาไปดูเอาเองที่บ้าน  คนกู้เครียดนะแต่คนให้กู้คงเครียดกว่า 555  แล้วทำไมมันถึงกู้ขึ้นมาได้ละเนี้ย ???

         พูดแบบง่ายๆเลยคือระบบการจัดการข้อมูลโดยหลักใหญ่จะมีตัวชี้ตำแหน่งของข้อมูลกับตำแหน่งที่เก็บข้อมูลจริง  ซึ่งในการลบข้อมูลของระบบโดยส่วนใหญ่ระบบจะลบข้อมูลที่เป็นตัวชี้ตำแหน่งเท่านั้น  แต่ไม่ลบที่เก็บข้อมูลจริง  เมื่อระบบทำการลบไปแล้วระบบจัดการข้อมูลจะมองพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ว่าง  แต่จริงๆยังมีข้อมูลที่ให้อ่านได้  ซึ่งข้อมูลจะถูกลบจากที่เก็บจริงก็ต่อเมื่อระบบจัดการข้อมูลนำพื้นที่นั้นไปเขียนข้อมูลอื่น  ข้อมูลส่วนนั้นจึงจะหายไปจริงๆ  ถ้าพูดง่ายๆ   ข้อมูลหายไปจริงเมื่อถูกเขียนทับ

          เมื่อไฟล์ยังไม่ถูกลบไปจริงๆ ทำให้เรามีโอกาสที่จะกู้ข้อมูลมาได้  ซึ่งตรงนี้ละครับที่อันตรายกับข้อมูลที่ต้องการลบจริงๆ  เราจะลบข้อมูลจริงๆอย่างไหร่ดีละเนี้ย

          ผมจึงขอเสนอโปรแกรมที่ช่วยลบข้อมูลในพื้นที่เก็บจริง ทำให้ไฟล์นั้นหายไปตลอดกาล  ผมขอเสนอโปรแกรม Eraser ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยลบข้อมูลจริงๆให้กับเรา   เราสามารถไป download ได้ที่เว็บ http://eraser.heidi.ie/

          เมื่อเราได้ไฟล์แล้วก็ติดตั้งกันเลยครับ

          1. คลิ้กที่ปุ่ม Next

          2. คลิ้กเลือกช่อง Iaccept the terms in the License Agreement แล้วกดปุ่ม Next

          3. เลือกปุ่ม Tpcical

          4. กด Next

          5. กดปุ่ม Finish

          ติดตั้งเสร็จแล้วครับ

          ผมจะบอกวิธีลบง่ายเลยครับส่วนการใช้งานด้านอื่นๆ ใครสนใจจริงๆให้ลองเล่นดูเองนะครับเพราะมีการให้ใส่ค่าตั้งค่าให้ลบได้พอสมควรเลยครับ

          วิธีการลบง่ายนิดเดียวครับ  เปิดหาไฟล์ที่เราต้องการจะลบครับโดยจะเลือกที่ละไฟล์หรือจะเลือกไว้เป็นชุดก็ได้ครับ  จากนั้นให้คลิ้กขวาที่ตัวไฟล์หรือชุดไฟล์ที่เลือกไว้จะมีเมนูให้เลือก เราก็เลือก Eraser  แล้วก็เลือก Erase อีกครั้งหนึ่ง  ที่นี้ข้อมูลก็จะหายสาบสูญไปตลอดการณ์

          ถ้าสั่งไปแล้วไฟล์บางไฟล์จะไม่หายในทันทีนะครับ ขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์ที่ต้องการลบครับ ถ้าข้อมูลมีมากโปรแกรมก็จะเวลาในการลบนานตามขนาดของไฟล์เลยครับ เพราะโปรแกรมกำลังเขียนข้อมูลทับลงไป  โปรแกรมจะทำการเขียนทับไปเรื่อยๆจนเสร็จครับ  จากนั้นไฟล์นั้นก็จะหายไปเองและไม่สามารถที่จะกู้คืนมาได้ครับ
          สุดท้ายนี้ผมก็ของให้เราๆท่านๆมีโปรแกรมที่ช่วยกำจัดไฟล์ที่เราต้องการลบจริงๆ  จะได้สบายใจกัน แต่ผมก็ของให้ใช้โปรแกรมนี้อย่างระมัดระวังครับ  ลบข้อมูลผิดไปแล้วจะหาว่าไม่เตือนกัน